29/6/53

29 มิถุนายน 2553

วันนี้เป็นวันเกิดโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีค่ะก็มีกิจกรรมตักบาตรที่วัดบ้านตาดตั้งแต่ตอนเช้าและก็มีฉันเพลที่ตึกอำนวยการชั้น 7 และก็มีการมอบทุนให้กับบุตร
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลซึ่งอาจารย์ห้องโสตอาจารย์หล่อก็ได้รับด้วยค่ะ และก็มีการอบรมเกี่ยวกับการสื่อสารมาตราฐานด้านสุขศึกษาที่ห้องจิตตะค่ะ ฝนก็ได้ไปถ่ายภาพสิ่งปรักหักพังบริเวณที่จะสร้างตึกผ่าตัดใหม่ไปเก็บรายละเอียดความคืบหน้าสิ่งที่ต้องเสนอให้ทางโรงพยาบาลแก้ไขปรับปรุง แล้วจึงขึ้นไปถ่ายภาพที่ห้องจิตตะฝนต้องคุมห้องประชุมคนเดียวเพราะอาจารย์หล่อไปรับทุน และได้อัดเทปการสอนของท่านอาจารย์ด้วยค่ะเป็นห้องคอนโทนค่ะเราต้องดูเสียงไมจอโปรเรคเตอร์ว่ามันพร้อมจะใช้งานไหมตื่นเต้นค่ะ และก็ได้นั่งฟังการสอนของอาจารย์แบบไม่ง่วงเลยค่ะเพราะอาจารย์พูดตลกและซอดแซกสาระได้อย่างดี ฝนได้ข้อคิดข้อหนึ่งมาว่าการที่เราจะจดจำเรื่องไรก็ตามเราไม่จำเป็นต้องจดบันทึกแต่เราสร้างแฟ้มภาพให้กับตัวเองเราก็จะจำได้โดยที่ไม่ลืมค่ะ

28/6/53

28 มิถุนายน 2553

พอถึงห้องทำงานก็เกิดอาการงงเพราะไปถึงประตูล็อกค่ะ แต่ไปทันอาจารย์เรียกพอดีกำลังจะขึ้นไปถ่ายวีดีโอชั้น 7 งานอบรมน้องพยาบาลที่เข้ามาใหม่แต่พอขึ้นไปทางแม่งานเขาบอกว่าถ่ายเฉพาะภาพนิ่งฝนเลยลงงมาช่วยงานข้างล่างเต้เลยถ่ายงานอยู่ข้างบน ก็ตามเดิมงานกราฟิกแต่วันนี้ไม่ค่อยได้ทำเยอะก็ได้ปริ้นภาพที่หน่วยกู้ภัยไปช่วยพระที่ตกเขาโดยหน่วยกู้ภัยต้องใช้ ฮอไปรับ ภาพน่าตื่นเต้นมากค่ะ แล้วก็เคลือบบัตรวันนี้ก็ไม่มีไรมากค่ะแต่พรุ้งนี้งานใหญ่ครบรอบวันเกิดโรงพยาบาลค่ะ เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะส่งบทที่1ให้อาจารย์ก่อนนะค่ะ

24/6/53

24 มิถุนายน 2553

วันนี้มีงานวิธีการล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค ซึ่งมีปลัดกระทรวง ผู้ตรวจงานราชการและผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาเปิดงานค่ะ แต่สถานที่ค่อนข้างแคบมากไม่พอกับจำนวนคนที่เข้าร่วมงาน งานที่รับมอบหมายนะค่ะฝนถ่ายภาพนิ่งเต้ถ่ายวีดีโอ เมื่อท่านเดินมาก็มีคนมาล้อมรอบมากมายฝนต้องวิ่งเบียดเขาไปถ่ายรูปท่านทั้งสามซึ่งผู้ที่ไปถ่ายภาพมีฝนนี่ละค่ะผู้หญิงคนเดียวทั้งนักข่าวทั้งประชาสัมพันธ์ผู้ชายหมดค่ะ แต่ก็ได้ภาพมาเยอะอยู่ค่ะ แต่เต้ก็มาเอากล้องกับฝนไปถ่ายเพราะกลัวว่าฝนไม่ได้ภาพทั้งๆที่ฝนก็ถ่ายมาได้เยอะแล้วไม่รู้นะค่ะฝนคิดว่ามันไม่เหมาะที่จะทำแบบนี้มันเหมือนฉีกหน้ากันยังไงไม่รู้เหมือนมีแต่เต้ที่ทำได้ทั้งๆที่ฝนก็ทำได้ถึงอาจจะไม่ดีเท่าแต่คนเราก็ต้องมีการพัฒนาที่ดีขึ้นค่ะอาจารย์ แต่ฝนก็ไม่ได้ว่าไรนะค่ะเขาอยากทำไรก็ให้เขาทำเถอะแล้วหัวหน้าโทรมาบอกว่ามีการประชุมการตรวจราชการที่ห้องประชุมชั้น 7 ค่ะ ฝนก็ต้องไปถ่ายวีดีโอชั้น 7 เป็นอะไรที่ไม่พร้อมเลยค่ะเพราะการประชุมเริ่มไปนานแล้วพอไปตั้งกล้องมันก็ไปเกะกะผู้บริหารที่เขากำลังนำเสนองานเป็นวุ่นวายเพราะฝ่ายงานไม่มีการบอกก่อนล่วงหน้าค่ะ พอตั้งกล้องเสร็จก็ออกมาอยู่ห่างๆเพราะจะไปบังจอโปรเจคเตอร์ที่เขานำเสนองานค่ะ แล้วพอเต้ขึ้นมาอาจารย์ก็มาบอกฝนว่าฝนนะไม่กล้าเข้าถ่ายภาพทั้งๆที่ก็แทบจะหมุดตัวลงไปถ่ายอยู่แล้ว อาจารย์ก็หาว่าฝนหวงเนื้อหวงตัวเปล่าเลยนะค่ะก็เบียดไปแต่เป็นคนคิดมากว่าจะไปบังกล้องคนอื่นที่เขากำลังจะถ่ายค่ะเลยต้องดูจังหวะก่อน ฝนท้อเลยนะค่ะเพราะทำไรก็ผิดไปหมดก็ผิดที่เราเป็นผู้หญิงงั้นหรอ คอยดูฝนจะทำให้เขาเห็นว่าผู้หญิงอย่างเราก็ทำได้ค่ะ รู้นะค่ะว่าเวลาผู้หญิงทำงานประเภทนี้ผู้ชายดูมันจะเป็นขวางหูขวางตาก็ทำไงได้ละค่ะ ก็ทำไม่ได้ไม่ทำไม่เคยเกี่ยงงานใช้ไรก็ทำหมด บางทีอาจจะทำให้เราค้นพบตัวเองว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับงานก็ได้ค่ะ ฝนไม่เคยเกี่ยงว่าอันนี้ทำได้ไม่ดีไม่อยากทำไม่เคยว่าฝนก็เข้าใจว่าเรามาฝึกงานเราต้องได้ทำทุกอย่างถึงจะไม่ถนัดในด้านนี้ก็ตาม รู้สึกกดดันค่ะที่ถูกเปรียบเทียบเพราะเป็นคนที่ไม่ชอบให้คนอื่นเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครคนเราก็ต้องมีดีในตัวของใครของมันอยู่แล้วไม่ใช่จะเก่งไปซะทุกอย่างจริงไหมค่ะ เหนื่อยค่ะแต่ฝนจะไม่ท้อจะสู้ต่อไปค่ะ ระบายมาซะเยอะเลยเขียนแล้วรู้สึกดีค่ะอาจจะมีนอกเรื่องบ้างคงไม่ว่ากันนะค่ะ

23/6/53

วันที่ 23 มิถุนายน 2553

วันนี้มีประชุมสองที่ค่ะมีประชุมโรคมะเร็งปากมดลูกและภาวะตกเลือดหลังคลอดที่ห้องประชุมชั้น 7 ห้องประชุมยูงทอง และอีกที่คือหอประชุมจิตวิทยาซึ่งเปิดงานรวมกันทั้งหมดที่ห้องประชุมยูงทอง แล้วจึงแยกกันออกซึ่งมีนักศึกษาแพทย์เข้าไปเรียนช่วงเช้าก็ถ่ายภาพบรรยากาศรอบๆงานและตอน ผ.อเปิดงานและก็ถ่ายวิทยากรที่ขึ้นบรรยายในแต่ละหัวข้อค่ะ แล้วก็วิ่งไปถ่ายที่หอประชุมจิตตวิทยาด้วย แต่พอช่วงบ่ายผู้เข้าประชุมก็เข้ามาที่หอประชุมยูงทองทั้งหมดค่ะ เพื่อฟังการบรรยายเรื่องโรคมเร็งปากมดลูกจากอาจารย์จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินท์ อาจารย์เก่งมากค่ะพูดให้ผู้ฟัง ฟังอย่างตั้งใจมากเลยค่ะวันนี้ก็ได้ความรู้มากมายทั้งงานที่ได้รับมอบหมายโดยตรงและ ทั้งความรู้ที่เป็นเรื่องในตัวของผู้หญิงอย่างฝนด้วยค่ะทำให้รู้สึกว่าชีวิตคนเราถ้าเราไม่ดูแลคงไม่มีใครมาดูแลให้เรา น่ากลัวมากเลยค่ะ พอตอนบ่ายฝนก็เปลี่ยนกับเต้ถ่ายวีดีโอค่ะ จนถึงสี่โมงกว่าวิทยากรยังพูดไม่จบเลยค่ะ แต่เทปม้วนที่สามหมดพอดีเนื้อหาก็ใกล้จะจบพวกเราก็เลยพอแค่นั้นเก็บของกลับห้องทำงานแล้วพวกเราก็กลับบ้านกันค่ะ แต่พรุ้งนี้มีงานเข้าอีกค่ะ

22/6/53

วันที่ 22 มิถุนายน 2553

เช้านี้อากาศสดใสเพราะเมื่อคืนฝนตกแรงมากค่ะ พอถึงโรงพยาบาลก็ทำงานต่อที่ค้างไว้เมื่อวานค่ะ ก็ปริ้นข้อความมีอยู่สามขั้นตอนในการเข้ารับบริการ ก็ปริ้นอย่างละสามชุดเพราะติดใส่ฟิวเจอร์บอร์ดสามด้าน และก็ตามมากับการจัดรูปปริ้นแล้วก็ตัดแพคใส่ถุงตามเดิมค่ะ แล้วก็ลงไปติดป้ายโฟมของการจัดงานวันพรุ้งนี้คืองานวิธีการล้างมือและการสวมหน้ากากอนามัยค่ะ

21/6/53

วันที่ 21 มิถุนายน 2553

วันนี้ประเดิมด้วยงานปริ้นปกหนังสือ 50 แผ่นค่ะ ตามด้วยงานจัดรูปขนาด1นิ้ว10รูปกับ2นิ้ว8รูปก็จัดใส่ครึ่งกระดาษเอ4ค่ะแล้วก็ปริ้นใส่กระดาษ poto ขนาดเอ4ค่ะ ก็ทำประมาณ15คน ที่เขามาถ่ายตอนอาทิตย์ก่อนค่ะ แล้วก็ทำงานกราฟฟิกป้ายที่ปริ้นข้อความมาติดฟิวเจอร์บอร์ดแล้วเคลือบด้วยแผ่นใสอย่างที่เคยทำค่ะก็มีเต้ถ่ายรูปติดบัตรด้วยค่ะ วันนี้ดูเหมือนงานจะเบาแต่ก็มีให้ทำตลอดเลยจนถึงสี่โมงเย็นเลยค่ะ มีงานทำป้ายติดข้อความแล้วทำฟิวเจอร์บอร์ดเป็นสามด้านนำข้อความมาติดอย่างที่เคยทำแต่ก่อนค่ะแต่เป็นของคนละวอดที่มาสั่งทำค่ะ ที่ค้างอยู่ค่ะแต่อาจารย์บอกว่าค่อยมาทำต่อพรุ้งนี้ กลับหอแล้วค่ะเดี๋ยวมาเล่าต่อนะค่ะ

18/6/53

วันที่ 18 มิถุนายน 2553

วันนี้ก็ไปทำงานตามปกติค่ะ วันนี้มีประชุมที่ห้องประชุมทันตกรรมห้องประชุมเล็กค่ะเต้ไปเป็นคนถ่ายภาพส่วนฝนอยู่ที่ห้องทำงานช่วยงานด้านกราฟฟิกค่ะตัดฟิวเจอร์บร์อดทำแฟ้มคนป่วย ติดรูปใส่ฟิวเจอร์บอร์ดเพื่อไปติดทำเนียบของแต่ละฝ่ายงาน แล้วก็ตัดสติกเกอร์สี่สีตัดเป็นเส้นยาวๆประมาณความกว้างครึ่งเซ็นความยาวไม่จำกัดเพราะเขาจะเอาไปทำเส้นกราฟ และก็ปริ้นแปลนที่เขาออกแบบโดยโปรแกรม auto cad ตอนแรกปริ้นไม่ได้พอวันนี้แกเลยเอาโปรแกรมมาลงเลยปริ้นได้ค่ะ วันนี้ก็ไม่ค่อยเหนื่อยค่ะแต่ถ้างานเข้าเมื่อไหร่เป็นอันต้องเหนื่อยเพราะทีงานเข้าก็มักจะเข้าพร้อมกันค่ะ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะค่ะ

17/6/53

วันที่ 17 มิถุนายน 2553

วันนี้พวกเราก็ไปแต่เช้าเลยค่ะไปเตรียมตั้งกล้องเหมือนเดิมที่ห้องประชุมยุงทองชั้น 7 ซึ่งทางโรงพยาบาลจัดงานมหกรรมคุณภาพการพยาบาลขึ้นค่ะ ซึ่งมีการจัดบูทนวัตกรรมต่างๆที่พยาบาลนำมาประยุกต์ใช้กับคนไข้ค่ะ ตอนเช้าเต้ถ่ายวิดีโอฝนถ่ายภาพนิ่ง ที่สำคัญวันนี้มีสองงานพร้อมกันฝนต้องวิ่งถ่ายภาพที่อยู่คนละตึกกันเหนื่อยมากค่ะ พอถึงช่วง ผ.อ เดินชมบูทต่างๆฝนต้องเบียดเขาเข้าไปถ่ายภาพเพื่อจะได้มุมที่น่าสนใจและเห็น ผ.อ ชัดค่ะ ได้กระเป๋าแจกฟรีมา1ใบค่ะ แล้วพอช่วงบ่ายฝนไปเป็นคนถ่ายวิดีโอเต้ลงไปทำงานที่ห้องเวชนิทัศน์ช่วยอาจารย์อีกคนซึ่งงานข้างล่างก็เยอะไม่มีคนด้วยค่ะเพราะหัวหน้าก็ลาพักผ่อนวันจันทร์จึงจะมาทำงานปกติค่ะ ง่วงนอนแล้วพรุ้งนี้ตื่นแต่เช้าหลับฝันดีทุกคนค่ะ

วันที่ 16 มิถุนายน 2553

วันนี้ช่วงเช้าก็ได้ทำงานกราฟฟิกหลายชิ้นแต่เป็นงานเล็กๆน้อยๆก็มีตัดสติกเกอร์ติดป้าย แต่งรูปโดยเปลี่ยนพื้นหลังสีขาวเป็นสีน้ำเงินแล้วก็ตัดใส่ถุงอย่างเรียบร้อย และก็ได้ถ่ายรูปให้กับพนักงานของโรงพยาบาลสามคนค่ะ พอตอนบ่ายมาก็มีหมอมาให้ไลด์ดีวีดีงานเรื่องรักษ์หัวใจถวายพ่อหลวงให้แต่ทางเรายังแคปเจอร์ลงเครื่องยังไม่เสร็จเพราะต้องใช้เวลานานพอสมควรค่ะ แล้วคุณหมอก็แต่งชุดเต็มยศชุดข้าราชการพร้อมติดเครื่องราชย์อย่างสง่ามากมาให้ถ่ายรูปให้ แล้วพวกเราก็ช่วยกันเตรียมกล้องวิดีโอและกล้องถ่ายภาพนิ่งเตรียมถ่านเตรียมม้วนเพื่อจะได้ไปถ่ายงานในวันที่ 17 ค่ะ ก่อนจะกลับบ้านก็ได้ช่วยอาจารย์สำลีบอกให้พนักงานมาเซ็นเอกสารเพราะอาจารย์ไม่อยู่อาจารย์ลงไปหาหมอฝนเลยทำหน้าที่แทนค่ะ พอเซ็นเสร็จพวกเราก็กลับหอค่ะ

15/6/53

วันที่ 15 มิถุนายน 2553

วันนี้นะค่ะงานแรกที่ได้รับมอบหมายคือปริ้นรูปหมอพยาบาลของโรงพยาบาลตั้งแต่สมัยที่ใช้กล้องฟิมล์ ซึ่งเป็นภาพที่เก่ามากเอามาแสกนแต่ก็สวยแบบเก่าๆ ปริ้นใส่กระดาษโฟโต้ขนาด A3 ให้ผ.อ และทาสีโฟมตัว Q A ทาเป็นสีชมพู เพื่อนำไปจัดนิทัศการงานนวรรกรรมค่ะ แล้วก็ตัดสติกเกอร์สีขาวติดแปะเพื่อจะเขียนวันที่เพราะใช้ป้ายเก่าแต่เปลี่ยนแค่วันที่ แล้วช่วงบ่ายฝนก็ขึ้นไปชั้น 7 เพื่อถ่ายรูปการประชุมของคณะกรรมการบริการโรงพยาบาล เต้ถ่ายวิดีโอ ฝนถ่ายภาพนิ่งรายงานค่ะ เสร็จประมาณสี่โมงเย็นพวกเราก็กลับบ้านค่ะ

14/6/53

วันที่ 14 มิถุนายน 2553

วันนี้ก็ไปทำงานตามปกติค่ะ แต่วันนี้เงียบเหงาเพราะไปถึงอาจารย์จุ้ยก็บอกว่าหัวหน้าลาพักร้อนพออาจารย์ตุ๋ยเข้ามาทำงานสักพักก็มีคนโทรมาบอกว่าพี่ชายตกต้นไม้ก็ต้องไปปากคาดจังหวัดหนองคายพอสักพักอาจารย์สำลีก็โทรมาบอกว่าลาป่วย สรุปวันนี้พวกเราทำงานกันอยู่สี่คนมีฝน เต้ อาจารย์จุ้ย อาจารย์หล่อ ดีที่มีงานไม่ค่อยเยอะไม่งั้นตายแน่ๆ วันนี้ก็ตัดสติกเกอร์ติดไว้บอร์ดอาจารย์จุ้ยเป็นคนเขียนหัวข้อ แล้วช่วงบ่ายฝนก็ได้ถ่ายรูปติดบัตรของพนักงานสองท่านค่ะวันนี้ถ่ายชัวมากกดครั้งเดียวผ่านเลยต่างจากช่วงแรกๆคอเอียงบ้างไม่บล้านบ้าง แต่วันนี้ภูมิใจมากค่ะกดครั้งเดียวทุกภาพอาจารย์ก็บอกว่าผ่าน แล้วก็แสกนงานวิชาการให้คุณพยาบาลค่ะ มีพี่ฝ่ายเทคนิคมาให้ปริ้นงานให้แต่แกใช้โปรแกรม cad ทำเป็นโปรแกรมออกแบบแต่เครื่องที่ห้องเวชนิทัศน์ไม่มีโปรแกรมนี้เลยเปิดไม่ได้ถามแกว่าเซปเป็นไฟล์.jpegได้ไหมแกบอกว่าไม่ได้เลยไม่ได้ปริ้นเลยค่ะ

13/6/53

วันที่ 11 มิถุนายน 2553

วันนี้มีงานอบรมวิธีป้องกันโรคไข้เลือดออกมีหมอพยาบาลเข้าร่วมถึงสามร้อยกว่าคนเยอะมาก และก็มีงานประชุมวิชาการของแผนกทันตกรรมด้วย แต่ไม่ใหญ่เท่าไข้เลือดออกซึ่งฝนต้องวิ่งลงชั้น7ไปถ่ายตึกทันตกรรมแล้วก็ต้องกลับมาห้องประชุมโรคไข้เลือดออกด้วย วันนี้ได้วิ่งขึ้นวิ่งลงทั้งวันเพราะลิฟมันต้องรอนานแล้วเราก็รีบด้วยแต่เต้นะดีที่ได้ถ่ายวิดีโอในห้องประชุมใหญ่ ไม่ได้วิ่งเหมือนฝน วันนี้ก็ได้กินข้าวฟรีอีกแล้ว พอถึงช่วงบ่ายพอลงมาที่ห้องทำงานอาจารย์สำลีเลยให้ฝนทำแฟ้มประวัติคนไข้เพิ่มที่ทำไปวันนั้นมันไม่พอ ฝนก็นั่งทำอยู่คนเดียวเป็นสิบกว่าอันไม่มีใครช่วยเลยเต้ก็อยู่ข้างบน แล้วแถวยังมีคนมาถ่ายรูปอาจารย์ธิปก็ทำงานอาจารย์อยู่ ก็เลยให้ฝนไปถ่ายพี่เขา ทั้งเอียงบ้างเงยบ้างก็ถ่ายไว้เยอะอยู่ค่ะให้พี่เขาเลือกภาพเอง พี่เขาสวยอยู่แล้วถ่ายยังไงก็สวยค่ะฝนบอกเขาเพราะกลัวเขาว่าให้เราก่อนวันนี้ก็มีประมาณนี้ค่ะ

วันที่ 10 มิถุนายน 2553

วันนี้ก็ได้สานต่องานที่ทำต่อจากที่ทำข้างไว้ค่ะ ทำป้ายบอกจุดแต่ละจุดเพื่อสดวกแก่คนไข้ที่เข้าตรวจแต่คราวนี้ทำเป็นสามมิติมองได้สามด้านพวกเราก็เอาฟิวเจอร์บอดร์ดมาตัดทำให้เป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า แล้วก็ปริ้นข้อความมาติดเคลือบด้วยพลาสติกไส แล้วเขาจะเอาไปใส่ท่อพีวีซีเพื่อยกขึ้นโชว์ให้คนที่มารับบริการได้ทำตามขั้นตอนที่บอกไว้ตามลำดับ พอเสร็จก็มีคุณหมอลงมาบอกให้ไลด์แผ่นดีวีดีให้ เกี่ยวกับการสัมนาเรื่องโรคหัวใจนิแหละค่ะเพราะคุณหมอคนนี้เป็นหมอเฉพาะด้านโรคหัวใจคุณหมอให้ไลด์ 14แผ่นซึ่งต้องนานมากดีที่แกเอาพรุ้งนี้ พอเสร็จงานไลด์แผ่นซีดี ก็ไปทำการแสกนด์ภาพถ่ายเพื่อทำบัตรของบุคลากรที่เป็นพนักงานในโรงพยาบาลค่ะประมาณ6ภาพค่ะ

11/6/53

วันที่ 9 มิถุนายน 2553

วันนี้มาถึงโรงพยาบาล 7.40 สายไปนิดเหนื่อยจากงานเมื่อวานค่ะ งานแรกที่ได้รับมอบหมายคือแก้งานที่ทำป้ายจุดบริการเขาจะทำเป็นป้ายสามด้านที่ให้คนอ่านอ่านได้ทั้งสามด้านก็มี 6 ป้าย ไม่เยอะค่ะพอทำเสร็จก็มีงานที่สองตามมาคือทำป้ายบอกรายละเอียดของจำนวนผู้ป่วยจำนวนพยาบาลในแต่ละวันของหอผู้ป่วยหน่วยไฟไหม้น้ำร้อนลวกค่ะ ปริ้นใส่เอสามแล้วติดใส่ฟิวเจอร์บอร์ดเคลือบด้วยแผ่นพลาสติก ตอนเที่ยงไปกินข้าว อาจารย์ตุ๋ยเลี้ยงข้าวเที่ยงเราสองคนอีกแล้วเท่าที่จำได้มาฝึกงานพึ่งจะได้ซื้อข้าวกินเองสองวันค่ะอาจารย์เขาใจดีมากเลี้ยงข้าวเด็กน้อยตาดำๆอย่างเราสองคน พอถึงตอนบ่ายก็ได้ทำแฟ้มประวัติคนไข้ประมาณ20แฟ้มต้องตัดฟิวเจอร์บอร์ด 20แผ่น เต้โดนคัดเตอร์ซอยเอาไปแล้วแต่ฝนยังไม่โดนอาจารย์บอกว่าถ้าใครโดนคัดเตอร์บาดถือว่าผ่านรู้สึกจะเริ่มกดดันแล้วละค่ะ ตัดแผ่นใส20แผ่นแล้วก็ใส่สันรูด เต้ก็ตัดสติกเอร์ใส่บอร์ดรายชื่อคนไข้ตึกเมตตา พอถึง 16.30 น.พวกเราก็กลับหอกันค่ะ

9/6/53

วันที่ 8 มิถุนายน 2553

วันนี้ไปแต่เช้ามากเลยค่ะไปทำงานตั้งแต่ 7.00น. เพราะอาจารย์เขาให้ไปเตรียมกล้องเตรียมความเรียบร้อยช่วย วันนี้ก็ถ่ายการอบรมสัมนาเรื่องรักษ์หัวใจถวายพ่อหลวงวันสุดท้ายวันนี้ฝนเป็นคนถ่ายวิดีโอตื่นเต้นมากค่ะกลัวทำพลาด ช่วงเช้าก็ไม่มีไรมากเหมือนเราได้เข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมเลยค่ะได้ศัพท์แพทย์มาหลายคำ แต่ช่วงบ่ายนิดิแพทย์พยาบาลมีการเปิดประเด็นคำถามปัญหาต่างๆ ปัญหาก็คือคนที่ถามกับคนที่ตอบอยู่คนละทิศละทางมุมกล้องไม่รู้จะถ่ายไปยังไง ฝนตื่นเต้นมากตอนนั้นไม่มีใครอยู่ด้วยเลยเต้ก็เข้าห้องน้ำ อาจารย์มาพอดีอาจารย์ก็บอกว่าให้หยุดภาพไว้ที่คนหนึ่งแล้วค่อยมาถ่ายต่อ หรือไม่ก็แพนกล้องไปอย่าให้มันวืด เพราะถ้าหันกลับไปกลับมาคนดูก็ลายตากันพอดี เต้มาเต้ก็มาสอนฝนว่าต้องถ่ายต้องหมุนยังไง แต่ช่วงที่แพทย์ขึ้นพูดตอนนี้เอากล้องจับสไลด์ที่แพทย์พูดง่วงนอนมากๆแต่ก็ต้องฟืนไว้ ตอนเที่ยงเขามีข้าวกล่องให้กินด้วยประหยัดไปอีกมื้อ พอเสร็จประมาณสี่โมงกรรมการก็แจกแฟรชไดร์ให้ผู้เข้าร่วมประชุม อาจารย์เลยขอให้ฝนกับเต้คนละอัน เหนื่อยมากเลยค่ะกลับหอก่อนนะค่ะเดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ

7/6/53

วันที่ 7 มิถุนายน 2553

วันนี้อาจารย์บอกว่าให้ฝนกับเต้มาแต่เช้าเพราะต้องมาตั้งกล้องเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ พอมาถึงฝนก็ขึ้นไปที่ห้องประชุมชั้น 7 ฝนถ่ายภาพนิ่งเต้ถ่าวิด๊โอมีแต่หมอพยาบาลประมาณสามร้อยกว่าคนตื่นตาตื่นใจมาก เพราะห้องประชุมใหญ่มากงานวันนี้เป็นการถ่ายทอดสดทั้งโรงพยาบาลเลยทำให้เราสองคนกดดันมากค่ะแต่ก็มีพลาดได้แต่ต้องน้อยที่สุด รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมอเลย555เพราะมีแต่สไลด์ที่เป็นภาษาอังกฤษมีแต่ศัพท์ทางแพทย์ทั้งนั้นสุดยอดมากฝนละเหนื่อยแทนฝนคิดไปว่ากว่าจะมายืนอยู่จุดนี้เขาคงเหนื่อยแทบขาดใจ ฝนทำแค่นี้ยังเหนื่อยมากเลยค่ะอาจารย์ก็สอนลำดับขั้นตอนว่าพิธีกรพูดถึงตรงนี้เราก็ต้องถ่ายแบไหนๆแล้วฝนซูมไปที่ผู้พูดในขณะตอนนั้น ก็ได้กินเบรคแต่ละช่วงตามที่เขาเบรคเหมือนกันค่ะวันนี้ไม่ได้ซื้อข้าวกินอีกแล้วได้กินข้าวกล่องฟรี ตอนเช้ากับตอนบ่ายแบ่งวิทยากรซึ่งเป็นนายแพทย์ด้านโรคหัวใจครึ่งละ 2 ท่านครึ่งเช้า 2 ครึ่งบ่าย2 เสร็จก็ประมาณสี่โมงแต่ก็ต้องเก็บของอีกเรียบร้อยก็ห้าโมงค่ะพรุ้งนี้ต้องเป็นทีฝนถ่ายวิดีโอเริ่มจะเครียดเพราะกลัวพลาด เหนื่อยมากค่ะ (หมายเหตุ ที่หอไม่มีเน็ตค่ะพอกลับมาก็เหนื่อยเลยไม่ได้ไปร้านเน็ตเก็บเงินซื้แอการ์ดอยู่ค่ะอาจารย์เข้ามาดูอย่าว่านะค่ะเพราะฝนเขียนบันทึกไว้ในสมุดทุกวันค่ะต่อไปจะมาเขียนทุกวันค่ะอาจารย์)

วันที่ 4 มิถุนายน 2553

วันที่สี่แล้วค่ะวันนี้ตื่นมาเป็นรู้สึกว่าเมื่อยตัวปวดแขนเพราะเมื่อวานไปแบกกล้องกับขาตั้งกล้องมา วันนี้ตอนเช้าได้ตัดสติกเกอร์ป้ายชื่อแพทย์ที่เข้าร่วมประชุมแต่ละงานที่เขาจะจัดขึ้น ไปดูสถานที่ในการจะถ่ายวิดีโอในวันที่7 เพราะจะมีงานสัมนาโครงการรักหัวใจถวายพ่อหลวงขึ้นสองวันคือวันที่ 7-8 มิถุนายน 2553 เป็นงานเกี่ยวกับโรคหัวใจพอตอนบ่ายก็ขึ้นไปติดภาพแต่กว่าจะได้ติดต้องรอนานมากเพราะฝนตกเขายังไม่เอาภาพมาให้ พอมาถึงฝนกับเต้ก็พากันวางแผนว่าจะติดาพยังไงเพราะมันเป็นภาพแนวนอนแต่บอดที่จัดเป็นบอดแนวตั้ง แล้วมันจะมีช่องว่างของแต่ละบอดคิดกันอยู่ตั้งนาน ฝนเลยบอกอาจารย์ว่าให้เอาผ้าเขามาติดปิดช่องว่างของแต่ละบอด อาจารย์บอกว่าเยี่ยมพึ่งจะได้คำชมดีใจมากค่ะแล้วพวกเราก็ช่วยกันติดแต่ปัญหาคือผ้าที่เขาจัดใว้มันปิดภาพต้องทำเป็นดอกใหญ่ขึ้นเพื่อจะเก็บภาพก็เหลือกันอยู่สองคนฝนไม่เคยจับผ้าฝนก็ได้จับ ทำเอาซะสวยเลยแต่ก็ยังเหลือภาพบางส่วนไว้ติดวันจันทร์เพราะยังไม่เสร็จ วันนี้ก็มีแค่นี้ค่ะ

วันที่ 3 มิถุนายน 2553

วันนี้ก็มาตรงตามเวลานัดหมายค่ะ เพราะอาจารย์นัดไว้ว่าจะพาไปถ่ายวีดีโอตั้งแต่เช้า ครึ่งแรกฝนถ่ายภาพนิ่งค่ะส่วนเต้ถ่ายวิดีโอฝนก็เก็บภาพทั่วๆไปตอนแรกก็ขึ้นไปที่ตึกคลอดเพื่อถ่ายเอามุมด้านข้างของตึกสิบชั้น แล้วตามด้วยขึ้นไปที่ตึกสิบชั้นโอ้ยจะบอกว่าเหนื่อยมาก ลืมบอกค่ะว่าได้ใส่หมวกเหมือนวิศวกรเลยดีใจมากค่ะแล้วพอถึงฃั้นดาดฟ้าเหนื่อยมากๆ แต่วิวสวยมากค่ะแล้วก็เก็บภาพรายละเอียดความคืบหน้าของการก่อสร้างตึกว่าถึงไหนแล้ว แล้วพอครึ่งหลังฝนก้เป็นคนถ่ายวิดีโอเต้ถ่ายภาพนิ่งก็ได้ลงไปถ่ายในแต่ละชั้นว่าการก่อสร้างคืบหน้าถึงตรงนี้ๆและอาจารย์ก็บอกมุมที่สำคัญๆค่ะว่าต้องถ่ายยังไงจุดไหนไปไหนแล้วก็ได้ไปถ่ายที่หนองประจักษ์ด้วยค่ะมุมภาพโดยรวม พอกลับมาห้องช่วงบ่าย ก็ได้นำภาพตึกมาติดใส่ฟิวเจอร์บอดแล้วเคลือบเพื่อจะนำไปติดที่วัดบ้านตราดเพื่อบอกความคืบหน้าให้กับทางวัดรับทราบค่ะ ทำป้ายบอกบุญให้กับคุณพยาบาล และฝนก็ได้ไปถ่ายภาพนิ่งเครื่องชั่งน้ำหนักคนไข้ซึ่งใหญ่มากคุณหมอที่ให้ไปถ่ายเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเข้าไปตอนแรกเริ่มรู้สึกไม่ดีเพราะมีคนป่วยที่คลั่งถูกมัดมืมัเท้าไว้แล้วฝนต้องไปถ่ายใกล้ๆตรงนั้นด้วย ตื่นเต้นมากฝนเลยบอกอาจารย์ว่าฝนรู้สึกหดหู่อาจารย์เลยบอกว่าเดี๋ยวก็ชินแล้วบอกต่ออีกว่าที่พระพุธเจ้าตรัสรู้ก็เพราะเดินผ่านโรงพยาบาลนี่แหละฝนเลยบอกกลับไปว่าฝนก็กำลังจะตรัสรู้แล้วละค่ะ วันนี้เหนื่อยมากค่ะวันหลังจะเล่าต่อนนะค่ะ

วันที่ 2 มิถุนายน 2553

วันนี้เป็นวันที่สองของการฝึกงานค่ะก็มาลงชื่อแต่เช้าเลยก็ไปทันนะค่ะวันนี้ได้ทำป้ายของจุดบริการต่างๆในโรงพยาบาลทั้งพิมพ์ทั้งติดเราทำเองเลยค่ะแต่การติดให้แผ่นเคลือบมันตรงนี่สิยากมากเพราะถ้าติดแล้วก็จะติดเลยแก้ไม่ได้เพราะกระดาษจะขาด และก็ทำงานเล็กๆๆน้อยที่แต่ละฝ่ายเขามาให้ทำให้ทั้งแผ่นป้าย ปริ้นรูป และก็ตัดรูปถ่ายที่แต่งเรียบร้อยแล้ว เอามาตัดแพคใส่ถุงเพื่อให้บุคลากรที่มาถ่ายมาเซ็นรับในวันต่อไป และพอตอนบ่ายก็ได้ไปถ่ายตึกหลวงตาบัวตั้งสิบชั้นแต่ไม่ได้ขึ้นไป แต่ได้ไปถ่ายมุมกว้างถ่ายมุมนี้ตีฃ้องเข้าไปถ่ายที่หนองประจักษ์จะเห็นตึกชัดมากค่ะ อาจารย์เขาก็สอนมุมกล้องการแพนกล้องการเริ่มการจบจะทำยังไงให้ภาพออกมาแล้วน่าสนใจค่ะแล้วพรุ้งนี้ก็จะได้มาถ่ายอีกภารกิจวันนี้ก็มีประมาณนี้ค่ะ

3/6/53

วันที่ 1 มิถุนายน 2553

วันนี้เป็นวันแรกของการฝึกงานตื่นเต้นมากค่ะนอนไม่หลับเลย แต่พอได้มาถึงตอนแรกก็เกรงๆๆค่ะก็บอกพี่เขาว่ามารายงานตัวการฝึกงานพี่ที่คุยด้วยเป็นตัวแทนของฝ่ายเวชนิทัศน์หวหน้าฝ่ายยังไม่มาค่ะ พี่เขาก็อธิบายงานคร่าวๆๆว่างานหลักของที่นี่ทำเกี่ยวกับการถ่ายภาพถ่ายวิดีโอการตัดต่อและงานพวกงานศิลป์เข้ามาร่วมด้วยเช่นการตัดสติกเกอร์ การเคลือบบัตร การทำป้ายบริการต่างๆและการทำโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งานทั่วไปซึ่งก็หน้าสนใจมากค่ะ พอพี่ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายเข้ามาก็อธิบายรวมอีกครั้งแล้วก็มีการแนะนำตัวค่ะ
วันแรกพวกเราก็นั่งทำสมุดลงเวลาและสมุดบันทึกกิจกรมเพราะเราไม่มีมาค่ะ และก็ถ่ายภาพตัวเองเพื่อทำบัตรติดหน้าอกพวกเราได้ออกแบบเองค่ะ แล้วก็ถ่ายภาพพนักงานที่มาถ่ายรูปติดบัตร และก็แต่งภาพจัดภาพเพื่อนำมาตัดแพคใส่ถุงไว้พนักงานก็จะมาเอาค่ะ ทำป้ายตามจุดบริการต่างๆแล้วก็เคลือบด้วยแผ่นใส(เหมือนจะงาย)แต่เราต้องใช้ความสมดุลในการติดอย่างมากเพราะแผ่นพลาสติกถ้าได้ติดแล้วก็จะติดเลยแก้ไขยาก และก็ทำป้ายให้กับพี่พยาบาลป้ายโฮมบุญค่ะวันนี้ก็มีภารกิจแค่นี้ค่ะเดี๋ยวมาเล่าต่อวันหลังนะค่ะ